การติดตั้งฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคารและที่พักอาศัย

จากภาวะโลกร้อน (Global Warming) ที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จึงทำให้ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสงสำหรับติดอาคารและที่พักอาศัยเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ฟิล์มลดความร้อนหรือฟล์มกรองแสงสำหรับติดตั้งอาคารจึงถูกพัฒนาให้สามารถลดใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองผู้ประกอบการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อาคารสำนักงาน โรงแรม รีสอร์ท สนามกอล์ฟและสปา โรงพยาบาล อพาร์ทเมนท์ คอนโดมิเนียม บ้านพักอาศัย ที่ต้องการประหยัดพลังงาน

ฟิล์มสำหรับติดอาคารและที่พักอาศัยตามคุณลักษณะในการใช้งานแล้ว การติดตั้งฟิล์มสำหรับอาคารและที่พักอาศัย จะแยกเป็น 3 ลักษณะดังนี้

1.การป้องกันภัยจากเศษกระจกโดยใช้ฟิล์มนิรภัย (Safety Films) คือ ฟิล์มในอาคารสูงจะช่วยยึดกระจกไม่ให้หลุดร่วงลงมาทำอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินในอาคารหรือที่พักอาศัย นอกจากนี้การติดฟิล์มนิรภัยยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับ คือ ในฟิล์มนิรภัยบางรุ่นมีการเคลือบสารต่างๆ ที่ช่วยในการลดความร้อนจากแสงแดดด้วย บางรุ่นสามารถติดตั้งแทนเหล็กดัด เพื่อป้องกันการโจรกรรมและเพื่อความสวยงามได้ (ความหนาที่แนะนำตั้งแต่ 8 Mil ขึ้นไป) ที่สำคัญคือสามารถลดรังสีอุลตร้าไวโอเลตหรือรังสียูวีได้กว่า 99% ซึ่งช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังและต้อกระจก พร้อมกันนี้ยังชะลอการซีดจางของอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในอาคาร ที่พักอาศัย และในระดับที่มีความหนาของเนื้อฟิล์มมากๆ จะสามารถใช้ป้องกันภัยจากกระสุนปืนหรือระเบิดรวมถึงการป้องกันการโจรกรรมได้

2.การป้องกันความร้อน ประหยัดพลังงาน (Building Films) คือ การติดฟิล์มเพื่อลดความร้อนจากภายนอก เป็นการประหยัดพลังงานโดยตรง และมีประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับคือ ฟิล์มสามารถลดรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตหรือรังสียูวีได้กว่า 99% เช่นกันกับฟิล์มนิรภัย ซึ่งช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังและต้อกระจก-ชะลอการซีดจางของอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในอาคาร, ที่พักอาศัย-สร้างความสวยงามภายนอกและไม่บดบังทัศนวิสัยในการมองจากภายใน สร้างความเป็นส่วนตัว-ลดแสงจ้าจากภายนอก ทำให้รู้สึกสบายสายตา

3.การติดฟิล์มเพื่อการตกแต่ง (Decorative Film) ฟิล์มสามารถติดตั้งเป็นลวดลายต่างๆ เพื่อความสวยงามรวมถึงประโยชน์ด้านอื่นๆ เช่น การลดรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต หรือการสร้างความเป็นส่วนตัว