นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการรักษาการจราจรที่ราบรื่นและปลอดภัยหลังพระอาทิตย์ตก ด้วยจำนวนยานพาหนะและถนนที่เพิ่มขึ้นความต้องการประเภทดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โคมไฟถนนเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ บริษัท ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการผลิตไฟดังกล่าวได้รับความต้องการอย่างมาก จนถึงปี 1990 พวกเขาใช้หลอดไส้ซึ่งใช้ไอระเหยโซเดียมความดันสูงหรือปรอท

โคมไฟถนนจำนวนมากขึ้นหมายถึงต้องใช้พลังงานมากขึ้น

ในการทำให้ไฟสว่างขึ้น หลอดโซเดียมและปรอทกินไฟมาก ในช่วงต้นทศวรรษที่ 90 การใช้พลังงานจากแสงประเภทนี้เกินกว่าระดับที่ต้องการ นักวิทยาศาสตร์เริ่มมองหาตัวเลือกที่ประหยัดพลังงาน หลังจากการวิจัยหลายครั้งโคมไฟถนนกลายเป็นไฟที่ดีที่สุด พวกเขาไม่เพียง แต่ใช้พลังงานน้อยกว่าไฟโซเดียมหรือปรอททั่วไป แต่ยังให้แสงสว่างที่ดีกว่าอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น คุณสมบัติทั้งหมดนี้ทำให้เมืองใหญ่ ๆ ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเปลี่ยนจากแบบเดิม ๆ มาใช้โคมไฟถนนในขั้นต้นพวกเขาพยายามที่จะผลิตโคมไฟถนนที่มีคุณภาพ

ไม่สามารถเปลี่ยนหลอดไฟที่ใช้พลังงานได้มากขึ้น แต่เทคโนโลยีก็ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปและในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมืองใหญ่ส่วนใหญ่ใช้ระบบโคมไฟถนนสิ่งนี้ไม่เพียงช่วยประหยัดเงินได้มาก แต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพของการส่องสว่างอีกด้วย คุณสมบัติทั้งสองนี้ช่วยประหยัดเงินได้มากสำหรับผู้ใช้ประเภทดังกล่าว

โคมไฟถนนเป็นตัวอย่างของไฟในตัว

หลอดไฟไม่ได้แยกจากแผงควบคุม ในความเป็นจริงกลุ่มโคมไฟถนนถูกปิดผนึกไว้ที่แผงและมีแผงระบายความร้อนติดอยู่ในหลอดไฟดังกล่าว แผ่นระบายความร้อนใช้เพื่อดูดซับความร้อนที่เกิดจาก LED โดยปกติแล้วโคมไฟถนนกำลังสูงหลอดเดียวจะใช้ในการสร้างแสงสว่างดังกล่าว แต่ในปัจจุบันบริษัทต่างๆ

ได้เริ่มใช้โคมไฟถนนพลังงานต่ำจำนวนหนึ่งเพื่อให้ได้เอาต์พุตที่เท่ากันไฟถนนแบบเดิมมีตัวสะท้อนแสงอยู่ด้านหลังหลอดไฟซึ่งมักจะทำให้สูญเสียแสงสว่างอย่างมาก ส่งผลให้เกิดมลภาวะทางแสง แสงสะท้อนที่เกิดจากไฟดังกล่าวยังไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่ โคมไฟถนนมักจะมีเลนส์อยู่บนแผง LED ซึ่งไม่เพียง แต่ป้องกันการสูญเสียแสงเท่านั้น แต่ยังให้รูปแบบสี่เหลี่ยมที่กำหนดไว้อย่างดีอีกด้วย พวกเขาไม่ก่อให้เกิดแสงจ้าเช่นกัน

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.winnerlight.co.th/