ฟิล์มกรองแสงนั้นมีคุณสมบัติคือเป็นวัสดุที่โปร่งแสง แต่ช่วยลดความร้อน ลดรังสีอินฟราเรด และรังสีอัลตร้าไวโอเลตที่เข้ามากระทบ ทำให้ช่วยลดความร้อนภายในรถ เมื่อต้องจอดอยู่กลางแสงแดด ซึ่งฟิล์มที่ว่านี้สามารถแบ่งได้หลายประเภทด้วยกันคือ
- แบบไม่มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสีที่มาจากแดด
- แบบมีส่วนผสมของสารป้องกันรังสีที่มาจากแดด
- ฟิล์มปรอท, ฟิล์มเคลือบโลหะ และฟิล์มลดความร้อน
- ฟิล์มอินฟราเรด (Infrared Film)
- ฟิล์มนิรภัย (Safety Film)
- ฟิล์มใสนาโน
ในส่วนของอายุการใช้งานของฟิล์มกรองแสงนั้นส่วนใหญ่นั้นฟิล์มหลายๆ ยี่ห้อจะรับประกันคุณภาพประมาณ 7 ปี แล้วหลายๆ คนก็มีข้อสงสัยว่าจริงๆ แล้วฟิล์มมีอายุกี่ปีกันแน่ ในบางยี่ห้อที่มีลักษณะที่เสื่อมคุณภาพไปแล้ว จะทำให้เราเห็นภาพซ้อน หรือเวลามองแล้วเห็นภาพไม่ชัด เหมือนเป็นคนสายตาสั้นซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้เราก็ควรที่จะเปลี่ยนได้แล้วเนื่องจาก ถ้าให้ฟิล์มหมดอายุหรือที่เค้าเรียกว่าฟิล์มตาย แล้วลอกออก ในการลอกออกนั้นอาจจะสร้างความเสียหายให้กับกระจกได้ แต่สำหรับฟิล์มที่มีคุณภาพจะลอกง่าย ใช้เวลาน้อยในการลอก และกาวของฟิล์มจะติดอยู่ที่ตัวฟิล์มไม่ได้ติดอยู่ที่กระจก ซึ่งจะดีกว่าฟิล์มที่ลอกแล้วกาวติดอยู่ที่กระจกนั้นเองนอกจากนี้แล้ว ยังมีความเหนี่ยวของเนื้อฟิล์มอยู่ เวลาดึงออกจากกระจกจะไม่ขาดหรือ แตกเป็นชิ้นๆ แต่สิ่งที่สำคัญคือ สิ่งที่ทำให้ฟิล์มนั้นมีอายุสั้นกว่าปกติ ก็คงตอบง่ายๆ เลย คือแสงแดด และน้ำยาเช็ดกระจกที่มี แอมโมเนีย ผสมอยู่ สองอย่างนี้จะเป็นสิ่งที่ทำลายตัวฟิล์มกรองแสงของเราให้มีอายุการใช้งานน้อยลง