ติดฟิล์มกรองแสงในที่พักอาศัยเป็นอีกวิธีหนึ่งในการประหยัดพลังงาน

ฟิล์มกรองแสง มีลักษณะเป็นชั้นใสๆ ซ้อนกัน หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปคือแผ่น โพลีเอสเตอร์นั่นเอง ซึ่งแต่ละแบรนด์จะใช้เทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ราคามีความแตกต่างกัน การทำงานหลักๆของฟิล์มกรองแสง คือ การลดความร้อน และช่วยป้องกันรังสีจากดวงอาทิตย์ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง และก่อให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งฟิล์มที่มีลักษณะเข้มจะกรองแสงได้ดีกว่าฟิล์มที่มีสีอ่อน ทำให้ลดการสะท้อนความร้อนได้มาก

ภายในอาคารที่พักอาศัยหรือสำนักงาน ควรติดฟิล์มกรองแสง เนื่องจากอาคารที่เพิ่งสร้างใหม่หรือพบเห็นได้ทั่วไปส่วนมากเป็นกระจก เพราะกระจกทำให้ตัวอาคารมีน้ำหนักเบา มีความทันสมัย สวยงามทั้งภายในและภายนอก แต่ทำให้เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงแดดย่อมทำให้เกิดความร้อนเข้ามาสู่ภายในอาคาร ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้นตามไปด้วย

นอกจากติดฟิล์มกรองแสงแล้วยังมีวิธีที่สามารถลดแสงจากภายนอกอีก เช่น การเลือกกระจก หรืออุปกรณ์ตกแต่ง ยกตัวอย่างเบื้องต้นมีดังนี้

  1. ใช้กระจกใส แล้วใช้ผ่านม่านหรือมู่ลี่ปิดทับเพื่อลดแสงแดด แต่อย่างไรก็ตามวิธีนี้ยังไม่ช่วยลดความร้อนที่กระจายเข้าสู่ตัวอาคารได้
  2. ใช้เป็นกระจกสี หาตู้หรือชั้นวางของมาบดบังไว้เพื่อลดแสงแดด แต่ความร้อนยังเข้ามาในอาคารเท่าเดิม
  3. ใช้กระจกสีเข้ม สามารถลดความร้อนได้ในระดับหนึ่ง ตามความเข้มของสีกระจก แต่ถ้ายิ่งเข้มมาก ก็จะส่งผลให้ภายในตัวอาคารมืดไปด้วย
  4. ใช้กระจกติดฟิล์มกรองแสง ติดฟิล์มกรองแสง ซึ่งสามารถลดและสะท้อนความร้อนออกจากตัวอาคารได้ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถลดความร้อนโดยรวมได้มากถึง 90% จากความร้อนที่จะเข้ามาภายในตัวอาคาร

ฟิล์มกรองแสงภายในอาคารนอกจากจะป้องกันแสงแดดและประหยัดพลังงานแล้วยังช่วยในด้านการตกแต่งได้อีกด้วย ดังนี้

  1. ทำให้อาคารหรือที่พักอาศัยมีความโดดเด่นทั้งภายในและภายนอก
  2. ช่วยทำให้มีความเป็นส่วนตัวสามารถมองออกไปข้างนอกได้ แต่ผู้ที่อยู่ข้างนอกไม่สามารถมองเข้ามาได้
  3. เพิ่มความปลอดภัย ซึ่งจะอยู่ในหมวดของฟิล์มนิรภัย
  4. ใช้สำหรับตกแต่งภายใน ซึ่งจะอยู่ในหมวดของฟิล์มฝ้าและสติกเกอร์ฝ้า