จากต้นแบบความคิดของนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ในประเทศญี่ปุ่น จนตกผลึกเป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนและรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถลดอุณหภูมิในห้องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยปัจจัยทางการตลาดจึงส่งผลให้สารเคมีดังกล่าว ได้รับการพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในสาธรณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นเจ้าของแหล่งแร่วัตถุดิบองค์ประกอบสำคัญในการผลิตสารเคมีดังกล่าว และได้มีโอกาสพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านกระบวนการต่าง ๆ จนกลายเป็นผู้ส่งออกสารเคมีที่ใช้ในกลุ่มธุรกิจฟิล์มกรองแสง และกลุ่มเทคโนโลยีสารเคลือบกระจกกันความร้อน รายใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ มีองค์ประกอบของรังสี UVA, UVB และความร้อน ที่ส่งผลต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม ซึ่งรังสีดังกล่าวหากสะสมในร่างกายในปริมาณมาก ๆ ย่อมเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง และเป็นหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำลายพื้นผิวของวัสดุ หรือเฟอร์นิเจอร์ ส่งผลให้สิ่งของต่างๆ เสื่อมสภาพและมีอายุการใช้งานได้น้อยลง ส่วนความร้อนมีผลทำให้ต้องใช้เครื่องปรับอากาศอย่างหนัก ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานสูง
นวัตกรรมล่าสุดของสารเคลือบกระจกเพื่อกันความร้อน ที่เป็นนาโนเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ในการลดความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติของสารเคมีที่มีแอลกอฮอล์เป็นองค์ประกอบหลัก ทำให้สามารถเคลือบยึดติดกับพื้นผิวของกระจกได้เป็นเนื้อเดียว มีความโปร่งแสงซึ่งไม่ทำให้เสียทัศนีย์ภาพอันสวยงามที่มองผ่านกระจก และสามารถป้องกันรังสี UVA, UVB ตลอดจนป้องกันความร้อนได้สูงสุดถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์
นอกจากคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่าสารเคลือบกระจกกันความร้อนหรือฟิล์มกรองแสงที่มีขายอยู่ในท้องตลาดทั่วไปแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมหรือที่เรียกว่า ECO – PRODUCT ที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศได้ดีที่สุด โดยสามารถลดความเย็นของห้องปรับอากาศลงได้ 2 – 4 องศาเซลเซียส ซึ่งจะประหยัดค่าไฟได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้ยังมีอายุการใช้งานได้มากกว่า 10 ปี หรือยืนยาวกว่าฟิล์มกรองแสงทั่วไปที่มีอายุการใช้งานเพียง 5 ปี เรียกได้ว่าลงทุนครั้งเดียว…คุ้มค่า คุ้มราคา